ซอฟต์แวร์ Nutanix Clusters ช่วยให้การโยกย้ายแอปพลิเคชั่น และการทำงานร่วมกันบนคลาวด์ต่าง ๆ เป็นไปอย่างราบรื่น ช่วยให้การโยกย้ายสู่คลาวด์ขององค์กรทำได้เร็วขึ้นบน AWS

 

 

กรุงเทพฯ – 13 สิงหาคม 2563 – นูทานิคซ์  (NASDAQ: NTNX) ผู้นำด้านเอ็นเตอร์ไพรส์คลาวด์คอมพิวติ้ง ประกาศความพร้อมใช้งานซอฟต์แวร์ Nutanix Clusters บน AWS ซึ่งจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวและความง่ายในการใช้ซอฟต์แวร์โครงสร้างพื้นฐานไฮเปอร์คอนเวิร์จ (HCI) รวมถึงผลิตภัณฑ์และบริการของ Nutanix บน Amazon Elastic Compute Cloud (Amazon EC2) ซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์เสมือนที่อยู่บน Amazon Web Services (AWS)  โดยารเปิดตัวในครั้งนี้ Nutanix จะเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานไฮบริดคลาวด์ที่ช่วยให้ธุรกิจทรานส์ฟอร์มสู่ดิจิทัลได้เร็วขึ้น และวบคุมค่าใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานได้อย่างเหมาะสม ซึ่งสองสิ่งนี้สำคัญมากในช่วงวิกฤตโควิด  Nutanix นำเสนอการผสานรวมระบบประมวลผลและการจัดเก็บข้อมูลเข้าไว้ด้วยกัน, รวมการบริหารจัดการทั้งไพรเวทและพับลิคคลาวด์ไว้บนหน้าจอเดียวกัน, เชื่อมโยงและผสานการทำงานกับระบบเครือข่ายของ AWS โดยตรง และความสามารถในการนำไลเซนส์ซอฟต์แวร์ไปใช้งานได้ทั้งบนไพรเวทและพับลิคคลาวด์ เพื่อแก้ปัญหาความท้าทายด้านเทคนิคและการปฏิบัติงานที่สำคัญที่เกิดขึ้นในยุคของไฮบริดคลาวด์

 

รายงานของ Gartner ระบุว่าภายในปี 2564 องค์กรกว่า 90% จะมีการใช้งานมัลติคลาวด์หรือไฮบริดคลาวด์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านไอทีของตน[1] ในขณะที่บริษัทต่าง ๆ ต้องการใช้ความคล่องตัวซึ่งเป็นคุณสมบัติของมัลติคลาวด์ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องติดขัดอยู่กับความซับซ้อน การทำงานแบบไซโล และค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการทั้งไพรเวทและพับลิคคลาวด์ ดังนั้นการมีโซลูชั่นรวมศูนย์หนึ่งเดียวที่ให้ประสบการณ์ ให้เครื่องมือ และการปฏิบัติงานที่สอดคล้องกันทั่วทุกระบบคลาวด์ จะช่วยให้บริษัทฯ สามารถทลายกำแพงของการทำงานแบบไซโลลงได้ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ในขณะเดียวกันก็ได้ใช้ประโยชน์จากความยืดหยุ่นในการเลือกใช้คลาวด์ที่เหมาะสมกับงานแต่ละประเภท  

 

Nutanix ส่งต่อความเรียบง่ายในการใช้ซอฟต์แวร์ของตนไปยังการใช้งานพับลิคคลาวด์ ช่วยลดค่าใช้จ่าย และขจัดความซับซ้อนในการบริหารจัดการการใช้งานแบบไฮบริดคลาวด์ นอกจากนี้การที่มีระบบเน็ตเวิร์กที่ผสานการทำงานกับ AWS ที่ติดตั้งมาพร้อม ช่วยให้สามารถเคลื่อนย้ายแอปพลิเคชั่นและข้อมูลระหว่างไพรเวทและพับลิคคลาวด์ได้อย่างราบรื่นโดยไม่ต้องทำการปรับสถาปัตยกรรมของแอปพลิเคชั่นใด ๆ ทำให้ปัจจุบันลูกค้าสามารถเลือกใช้คลาวด์ที่เหมาะสมกับแอปพลิเคชั่นแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ พร้อมด้วยประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นในการนำไลเซนส์ซอฟต์แวร์ไปใช้กับคลาวด์ได้ทุกประเภท ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อการลดต้นทุนและการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากร

 

นอกจากนี้ ลูกค้าจะสามารถใช้ประโยชน์จากชุดซอฟต์แวร์ครบวงจรของ Nutanix กับไพรเวทและพับลิคคลาวด์ ซึ่งประกอบโซลูชั่น Files สำหรับจัดเก็บข้อมูลสำหรับไฟล์แชร์, โซลูชั่น Calm ที่ช่วยประสานการใช้งานแอปพลิเคชั่น, โซลูชั่น Era ที่ใช้ในการดูแลระบบฐานข้อมูล และอื่น ๆ

 

นาย Doug Yeum หัวหน้าฝ่ายพันธมิตรช่องทางการขายระดับโลกของ Amazon Web Services, Inc. กล่าวว่าการเปิดตัว Clusters on AWS ทำให้เราตื่นเต้นที่จะได้ช่วยสนับสนุนให้ลูกค้าขยายการใช้งานไพรเวทคลาวด์ไปยัง AWS ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้ามีความยืดหยุ่นในการใช้ประโยชน์สูงสุดทั้งจากสภาพแวดล้อมของ AWS และ Nutanix โดยลูกค้ามีโอกาสใช้ประโยชน์จาก Nutanix Clusters on AWS  เพื่อใช้งานแอปพลิเคชั่นคลาวด์-เนทีฟของตนได้บน AWS และเป็นช่องทางลัดสู่การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล

 

ฟีเจอร์สำคัญ ๆ ของ Nutanix Clusters

 

·       การเคลื่อนย้ายแอปพลิเคชั่นและข้อมูล: ซอฟต์แวร์ Nutanix Clusters ช่วยแก้ปัญหาสำคัญที่องค์กรต้องประสบในการปรับเปลี่ยนไปใช้คลาวด์ โดยช่วยทำให้การโยกย้ายแอปพลิเคชั่นและข้อมูลเดิมไปยังระบบคลาวด์เป็นไปอย่างราบรื่น ช่วยให้เกิดความคล่องตัวโดยไม่จำเป็นต้องออกแบบแอปพลิเคชั่นใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาและมีค่าใช้จ่ายสูง

 

·       การทำงานที่คล่องตัวด้วยสภาพแวดล้อมคลาวด์หนึ่งเดียว: ซอฟต์แวร์ Nutanix Clusters ช่วยให้ลูกค้าสามารถสร้าง จัดการ และทำให้โครงสร้างพื้นฐานและแอปพลิเคชั่นทำงานร่วมกันได้ทั้งบนไพรเวทและพับลิคคลาวด์ภายใต้อินเทอร์เฟสเดียว แตกต่างจากโซลูชั่นของคู่แข่งอื่น ๆ ที่มีการบริการจัดการคลาวด์แบบไซโล แต่ Nutanix Clusters สามารถบริหารจัดการได้ทั้งบนไพรเวทและพับลิคคลาวด์ การทำงานเป็นหนึ่งเดียวนี้ช่วยให้องค์กรไม่จำเป็นต้องมีทีมทำงานหลายทีมเพื่อบริหารจัดการคลาวด์แต่ละประเภท หรือไม่จำเป็นต้องมีการเพิ่มเสริมทักษะเฉพาะให้กับทีม ทั้งยังทำให้การใช้งานแอปพลิเคชั่นข้ามคลาวด์ประเภทต่าง ๆ เป็นไปอย่างราบรื่น 

 

·                ผสานการทำงานร่วมกับระบบเน็ตเวิร์กของ AWS: การมีฟีเจอร์ในการทำงานร่วมกับเลเยอร์ของ AWS networking ที่ติดตั้งมาเรียบร้อยในซอฟต์แวร์ Nutanix Cluster ช่วยให้เกิดประโยชน์ ทั้งต่อประสิทธิภาพและความง่ายในการใช้งาน ช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้บัญชี AWS ที่มีอยู่ ซึ่งรวมถึงเครดิตที่ยังไม่ได้ใช้ ระบบเวอร์ชวล ไพรเวทคลาวด์ และ เน็ตเวิร์กย่อยอื่น ๆ ได้ สิ่งเหล่านี้ทำให้สามารถรวมศูนย์การบริหารจัดการไพรเวทและพับลิคคลาวด์เป็นหนึ่งเดียวได้อย่างแท้จริง และช่วยให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ในการบริหารจัดการระบบไฮบริคคลาวด์ที่เรียบง่าย

 

·                ลงทุนด้านคลาวด์อย่างมีประสิทธิภาพ: นอกจากจัดการกับความท้าทายหลัก ๆ ด้านเทคนิคและการดำเนินงานแบบไฮบริดคลาวด์แล้ว ซอฟต์แวร์ Clusters ช่วยประหยัดต้นทุนให้กับลูกค้าได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยช่วยขจัดต้นทุนที่เกิดจากความจำเป็นที่ต้องใช้ทีมงานดูแลคลาวด์แต่ละประเภท ขจัดค่าใช้จ่ายที่เกิดจากความจำเป็นในการโยกย้ายแอปพลิเคชั่นเดิม ๆ และจัดการกับพับลิคคลาวด์คลัสเตอร์ที่ไม่ได้ใช้งานได้เพียงคลิกเดียวเพื่อช่วยขจัดความสิ้นเปลือง นอกจากนี้ Xi Beam ของ Nutanix ยังมีคุณสมบัติที่ช่วยให้สามารถนำไลเซนส์ซอฟต์แวร์ไปใช้บนคลาวด์ประเภทใดก็ได้ มีรูปแบบการซื้อที่ยืดหยุ่น สามารถมองเห็นและรับรู้การใช้จ่ายด้านคลาวด์ได้มากขึ้น ซึ่งช่วยให้ธุรกิจใช้การลงทุนด้านคลาวด์อย่างคุ้มค่าและเลือกคลาวด์ที่ใช่สำหรับเวิร์กโหลดแต่ละประเภทได้อย่างแท้จริงโดยไม่ต้องล็อคอิน

 

·       อิสระในการเลือกใช้: Nutanix Clusters on AWS ช่วยให้ลูกค้ามีตัวเลือก ไม่ว่าจะเป็นการนำฮาร์ดแวร์ภายในองค์กรที่มีอยู่กลับมาใช้ใหม่ หรือใช้เครดิต AWS เมื่อต้องการสร้างไฮบริดคลาวด์ รวมถึงลูกค้ายังสามารถเลือกที่จะนำไลเซนส์ซอฟต์แวร์ในองค์กรมาใช้ หรือเลือกรูปแบบการชำระเงินตามการใช้งานจริง (pay-as-you-go) หรือรูปแบบ Cloud Commit

 

จากการสำรวจ และทำการประเมินกับลูกค้าทำให้ได้ลักษณะของงานหลัก ๆ ที่เหมาะสมกับการนำ Nutanix Clusters มาใช้ซึ่งประกอบด้วย

 

·       Lift and Shift: ลูกค้าสามารถย้ายแอปพลิเคชั่นไปยังระบบคลาวด์ หรือรวมดาต้าเซ็นเตอร์ขององค์กรได้ง่าย ๆ ด้วยการ “Lift and Shift” โดยไม่ต้องทำการปลี่ยนแปลงใด ๆ  ซอฟต์แวร์ Clusters ช่วยให้ลูกค้าไม่จำเป็นต้องออกแบบสถาปัตยกรรมใหม่ให้กับแอปพลิเคชั่นซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาได้อย่างมีนัยสำคัญนอกจากนี้ Nutanix Move ยังให้ความคล่องตัวในการโยกย้ายแอปพลิเคชั่นระหว่างโซลูชั่นที่ไม่ใช่ของ Nutanix กับ Nutanix Clusters เพื่อช่วยลดความซับซ้อนของกระบวนการทำงาน

 

·       ยืดหยุ่นได้ตามต้องการ: ลูกค้าสามารถปรับขยายขนาด หรือขยายการทำงานไปยังพื้นที่

ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที โดยการเข้าไปเพิ่มการใช้งานบนพับลิคคลาวด์เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นตามเทศกาลต่าง ๆ หรือปรับเปลี่ยนลำดับความสำคัญและอื่น ๆ  สิ่งเหล่านี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อมีเรื่องของความเร็วมาเกี่ยวข้อง และการเพิ่มขีดความสามารถที่เป็นกระบวนการทำงานที่ต้องอาศัยเวลา เช่น การขยายทรัพยากรด้าน VDI เป็นต้น

 

·       ความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจ: ลูกค้าสามารถใช้ประโยชน์จาก AWS เพื่อให้เกิดความพร้อมใช้งานระดับสูงและการกู้คืนระบบโดยปราศจากความซับซ้อนที่จะเพิ่มขึ้นระหว่างการบริหารจัดการสภาพแวดล้อมคลาวด์ หรือโซลูชั่นการกู้คืนระบบที่เป็นแบบ stand-alone

 

·       การให้บริการคลาวด์เนทีฟ: ลูกค้าสามารถใช้บริการคลาวด์-เนทีฟกับแอปพลิเคชั่นที่ใช้อยู่แล้วภายในองค์กร โดยไม่มีค่าออกแบบใหม่ที่แพง ซึ่งจะส่งผลให้แอปพลิเคชั่นที่มีอยู่มีความทันสมัยมากขึ้นได้อย่างง่ายดาย โดยใช้ประโยชน์จากบริการต่าง ๆ ของคลาวด์เนทีฟ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) แมชชีนเลิร์นนิ่ง (ML) การวิเคราะห์ และอื่น ๆ เพื่อทำให้การสร้างสรรค์ทางดิจิทัลของลูกค้าล้ำหน้ามากขึ้น 

 

นายทาร์คาน เมเนอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ของ Nutanix กล่าวว่าเราได้พยายามมา

โดยตลอดที่จะทำให้ไอทีเป็นเรื่องง่ายและทำงานประดุจไร้ตัวตนเพื่อลูกค้าของเรา ในขณะที่อุตสาหกรรมพัฒนาขึ้น ความมุ่งมั่นของเราได้ขยายจากเรื่องดาต้าเซ็นเตอร์ออกไปไกลถึงการช่วยให้ลูกค้าของเราจัดการกับความซับซ้อนของการใช้คลาวด์หลากหลายประเภทได้ ไม่ว่าจะเป็นไพรเวทหรือพับลิคคลาวด์ Nutanix Clusters on AWS แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ด้านนี้ของเรา Nutanix Clusters on AWS ช่วยให้เกิดความยืดหยุ่นที่สมบูรณ์แบบ ด้วยการอนุญาตให้เขียนโค้ดเพียงครั้งเดียว และใช้งานได้จากทุกสถานที่ โดยใช้ประโยชน์จากการปรับขยาย ใช้งาน ณ ที่ใดก็ได้ การบูรณาการ และตัวเลือกด้านราคาที่หลากหลาย และทั้งหมดนี้คือวิสัยทัศน์ที่แท้จริงของไฮบริดคลาวด์

 

ความคิดเห็นจากลูกค้า Nutanix

 

นายเคร็ก ไวลีย์ สถาปนิกอาวุโสระบบโครงสร้างพื้นฐาน, Penn National Insurance กล่าวว่าเรากำลังมองหาโซลูชั่นใหม่เพื่อรองรับ VDI เวิร์กโหลด เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นที่ศูนย์ข้อมูลหลักของเรา ธุรกิจของเราจะยังคงดำเนินต่อไปได้ Nutanix Clusters ช่วยให้เราสร้างระบบไฮบริดและมัลติคลาวด์ที่เชื่อมต่อกับดาต้าเซ็นเตอร์ของ Nutanix และ AWS ได้อย่างง่ายดาย ทำให้เราสามารถเพิ่มขีดความสามารถบน AWS ได้ทันทีเมื่อเราต้องการเรียกคืนเวิร์กโหลดจากระบบสำรองข้อมูลอย่างรวดเร็ว  นอกจากความยืดหยุ่นที่โซลูชั่นนี้มีให้แล้ว ความสามารถในการตั้งค่า AWS networking ที่เรามีอยู่แล้ว ทำให้การใช้งาน Nutanix Clusters ทำได้ง่ายดายในขณะเดียวกันก็ให้ประสิทธิภาพตามที่คาดหวัง  เราทราบแล้วว่าเราสามารถขยายความสามารถของ VDI ได้ภายในคลิกเดียว และหยุดการใช้งานเวิร์กโหลดของไฮบริดคลาวด์ได้เมื่อไม่ได้ใช้งาน ดังนั้นเราจึงจ่ายเฉพาะที่เราต้องการใช้งานจริงเท่านั้น

 

นายจูเลียน โด๊ก ผู้บริหารความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ, สำนักงานสถิติแห่งชาติของออสเตรเลีย กล่าวว่าสำนักงานสถิติแห่งชาติของออสเตรเลีย เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบในการสำรวจสำมะโนประชากรของประเทศ ซึ่งเป็นการทำงานด้านโลจิสติกส์ในยามสงบที่ใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย ความต้องการด้านไอทีที่เพิ่มขึ้นเพื่อใช้รองรับโครงการสำมะโนประชากรเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่เรามองหาแพลตฟอร์มไฮบริดคลาวด์ ไฮบริดคลาวด์มีความยืดหยุ่นและคล่องตัวที่จำเป็นต่อการปรับตัวรองรับความต้องการที่พุ่งขึ้นอย่างมาก เราเป็นลูกค้า Nutanix อยู่แล้ว โดยใช้ VDI และเวิร์กโหลดด้านการวิเคราะห์ในดาต้าเซ็นเตอร์ของเรา และเราใช้ AWS ด้วย โซลูชั่นเดียวที่ใช้บริหารคลาวด์ได้หลายประเภทจะช่วยให้เราปรับขยายความต้องการด้านไอทีได้อย่างไม่ยุ่งยาก  Nutanix Clusters ช่วยให้เรานำความสามารถไปใช้งานบนพับลิคคลาวด์ได้อย่างราบรื่นเพื่อเพิ่มการใช้งาน VDI เวิร์กโหลดเมื่อจำเป็นต้องใช้ในเวลาที่เราทำสำมะโนประชากร โดยที่เรารู้ว่าแอปพลิเคชั่นทั้งหมดของเราทำงานได้โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงหรือจัดโครงสร้างแอปฯ ใหม่

 

ปัจจุบัน Nutanix Clusters on AWS พร้อมให้บริการสำหรับลูกค้าที่ใช้ดาต้าเซ็นเตอร์ของ AWS ทั้ง 20 แห่งตามภูมิภาคต่าง ๆ นอกจากลูกค้าจะสามารถนำไลเซนส์ซอฟต์แวร์ของ Nutanix ที่มีอยู่ไปใช้กับทั้งไพรเวทและพับลิคคลาวด์ได้อย่างง่ายดายแล้ว ลูกค้ายังสามารถเลือกการชำระเงินได้ทั้งแบบ Cloud Commit และแบบจ่ายตามการใช้งานจริง (pay-as-you-go) ได้อีกด้วย  สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Nutanix Clusters on AWS กรณีการใช้ หรือทดลองใช้ กรุณาเข้าเยี่ยมชมได้ที่นี่ หรือเข้าร่วมชมการประกาศนี้ได้ที่นี่

 

ข้อมูลเพิ่มเติม


[1] แหล่งข้อมูล: Gartner, Inc, Market Insight: Cloud Imperative — Embrace Hybrid Cloud and Multicloud Architecture and Services, October 2019