“ร่างกายของฉันเป็นของฉันใช่ของใคร เธอจงเข้าใจหากว่าฉันพูดว่า ไม่”

นี่เป็นส่วนหนึ่งของเพลงร่างกายของฉัน ที่พูดได้ว่าเป็นประโยคสำคัญที่ทำให้เด็กได้เข้าใจว่า ร่างกายของเด็กเป็นสิ่งที่เด็กจำเป็นต้องดูแลด้วยตนเอง เป็นพื้นที่ส่วนตัว เป็นสิทธิส่วนบุคคลที่ใครเองไม่สามารถที่จะมาล่วงล้ำหรือจับต้องได้
ในโลกยุคปัจจุบันที่ปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศมีความรุนแรงและเพิ่มจำนวนมากขึ้น ซึ่งปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศสามารถเกิดขึ้นได้ทุกทีไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน ในห้างสรรพสินค้า หรือบ้านของเด็กเอง…
​ มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็กเล็งเห็นถึงปัญหาจุดนี้จึงนำหลักสูตรตัวฉันเป็นของฉันที่พัฒนามาจากโปรแกรม Feeling Yes Feeling No ของประเทศแคนาดาขึ้น มาจัดกิจกรรมสำหรับเด็กเพื่อถ่ายทอดความรู้ในเรื่องการป้องกันภัยทางเพศ ประกอบไปด้วย
🌟การแยกแยะการสัมผัสที่ดีและการสัมผัสที่ไม่ดี เพื่อให้เด็กวิเคราะห์ถึงการสัมผัสส่วนต่างๆของร่างกายที่อาจจะนำไปสู่การล่วงละเมิดทางเพศได้
🌟วิธีการปฏิเสธเมื่อเด็กอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงที่อาจถูกล่วงละเมิดทางเพศ
🌟วิธีคิดวิเคราะห์ความรู้สึกของตนเองไม่ให้ไปอยู่ในสถานการณ์เสี่ยง
🌟การขอความช่วยเหลือเมื่อเด็กพบเห็นเพื่อน หรือคนรู้จักโดนล่วงละเมิดทางเพศ หรือแม้กระทั่งตัวเด็กเองถ้าโดนล่วงละเมิดทางเพศแล้วสามารถขอความช่วยเหลือได้อย่างไร
มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก ขอเชิญชวนผู้ปกครอง คุณครู บุคคลที่อยู่แวดล้อมเด็ก และหน่วยงานต่างๆ เข้าไปศึกษารายละเอียดหรือดาวน์โหลดสื่อเพื่อนำไปสอนเด็กๆ ได้ที่ www.feelingyesnothailand.com

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายพัฒนาเด็กและครอบครัว โทร. 0-24120738
#ยุติความรุนแรงต่อเด็กทุกรูปแบบ   #ป้องกันภัยทางเพศ   #40ปีมูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก