เมื่อวิกฤติโรคระบาดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19 มาเยือน จึงทำให้หลายด้านของชีวิตและอาชีพการงานของทุกคนเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งเป็นวิกฤติที่เกิดขึ้นกับทุกคนทั่วโลกไม่เฉพาะในประเทศไทย หลายคนรู้สึกเศร้าสิ้นหวังท้อแท้ไม่รู้จะเดินไปทางไหน และต้องการที่พึ่งกำลังใจ สำหรับคนไทยที่พึ่งทางใจที่นึกถึงคงหนีไม่พ้นก็คือ “วัด” ซึ่งอยู่กับคนไทยมาช้านานนับจากอดีตเป็นต้นมา ถึงแม้ว่าโลกจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรก็ตาม

                เมื่อวัดเป็นที่พึ่งทางใจ วัดบางแพรก อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จึงเป็นอีกหนึ่งวัดกลางสวนในชุมชนบางแพรก จังหวัดนนทบุรี ก็เป็นที่พึ่งทางใจให้กับคนในชุมชน ซึ่งเดิมทีเป็นวัดที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักนักนอกจากคนในชุมชนเอง แต่ปัจจุบันวัดแห่งนี้ได้กลายเป็นแหล่งที่เกิดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อหวังให้กลายเป็นแลนด์มาร์กดึงคนให้กลับมาเข้าวัดมากขึ้นทั้งจากในชุมชนและนอกชุมชน โดยการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งเกิดจากความคิดของ คุณเอกระพีร์ สุขกุลพิพัฒน์ หรือคุณเอก อัคคี นักเขียนและคอลัมนิสต์พระเครื่อง รวมทั้งเป็นที่ปรึกษาของบริษัท จีเอ็ม อินเตอร์ ฟู้ดส์ และมาลีฮวนน่า กรุ๊ป ซึ่งเป็นลูกศิษย์ใกล้ชิดของท่านพระครูเกษมธีรคุณ ท่านเจ้าอาวาสวัดบางแพรก ที่อยากใช้วิกฤติที่เกิดขึ้นในช่วงโรคระบาดนี้ช่วยเสริมกำลังใจให้กับผู้คน เปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการจัดสร้าง “ไอ้ไข่โคตรรวย” เพื่อสร้างเป็นวัตถุมงลสำหรับเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจไว้ที่วัดบางแพรกแห่งนี้ โดยจัดสร้างเป็นรูปปั้นในลักษณะของกุมารเทพ ขนาดสูง 1.20 เมตร และสร้างวิหารลานบุญโคตรรวยสำหรับให้ประชาชนมาสักการะบูชาขอพร โดยดำเนินการมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563  และมาแล้วเสร็จจนผ่านการปลุกเสกด้วยวิชาของเขาอ้อ และอาจารย์ฆราวาสจำนวน 139 ท่านจากทั่วประเทศ และได้ตั้งประดิษฐานเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีคนมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก และมีคนมาไหว้ขอพร และประสบความสำเร็จในพรที่ขอ ก็มาจุดประทัดแก้บน โดยในคนจำนวนนี้ก็มีชาวสิงคโปร์ ไต้หวัน มาเลเซีย ที่อยู่ในประเทศไทยก็มาไหว้ขอพรด้วย ทำให้ข่าวนี้ถูกแพร่ออกไปยังหนังสือพิมพ์มาเลเซีย ทำให้มีคนสนใจจะมาไหว้สักการะเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ของเล่นที่นำมาแก้บนไอ้ไข่ ทางวัดบางแพรกก็จะนำไปบริจาคให้บ้านเด็กกำพร้า เท่ากับเป็นการทำบุญสองต่อให้กับผู้มาสักการะขอพรอีกด้วย

                จากการที่มีคนเข้ามาสักการบูชาขอพรมากขึ้น จึงทำให้คุณเอกระพีร์เกิดความคิดในการทำตลาดนัดชุมชนในวัดบางแพรกขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า “ตลาดนัดโคตรรวย” เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อ “ไอ้ไข่โคตรรวย” ซึ่งให้ประชาชนนำสินค้ามาขายได้ฟรีโดยเป็นความเมตตาของท่านพระครูเกษมธีรคุณที่จัดหาเต๊นท์มาให้ เพราะหวังให้ประชาชนมีทางออกในการดำรงชีพในภาวะแบบนี้ด้วยเช่นกัน โดยตลาดนัดจะมีทุกวันเสาร์อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ และแบ่งเป็นโซน ได้แก่ โซนโคตรแม่นก็จะมีนักโหราศาสตร์มาให้บริการประชาชนสำหรับคนที่ต้องการดูดวง โซนโคตรรักสุขภาพก็เป็นความร่วมมือกับสมาคมแพทย์แผนไทยที่นำสินค้าสมุนไพรมาจำหน่ายและให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ โซนโคตรรวยก็เป็นโซนที่มาสักการบูชาขอพรจาก “ไอ้ไข่โคตรรวย” ที่ลานวิหารบุญโคตรรวย โซนโคตรอร่อยโคตรอิ่มก็จะเป็นโซนที่มีการจัดจำหน่ายอาหารและสินค้า ซึ่งรวมถึงพืชผลด้านการเกษตรด้วย และสุดท้าย คือโซนโคตรขลัง ก็จะมีการจัดจำหน่วยวัตถุมงคลต่างๆ เพื่อให้ผู้สนใจเช่านำกลับไปบูชาได้

                นอกจากนี้ก็ยังมีการจัดกิจกรรมต่างๆ เพิ่มขึ้นด้วย อย่างเช่น ในวันที่ 5 – 27 กันยายน นี้ได้มีการจัดทำนิทรรศการพิพิธภัณฑ์มหาสังข์โคตรรวยจำนวน 9,999 ขอน มาร่วมจัดแสดงให้ประชาชนได้ชมกัน โดยเปิดให้ชมทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00 – 17.00 น. โดยเป็นการจัดงานร่วมกันระหว่างทางบ้านมหาสังข์ คุณแม่กำไล , ชมรมเด็กวัดแห่งประเทศไทย วัดบางแพรก ที่คุณเอกระพีร์ เป็นประธานชมรม และทางรายการช่องส่องผี ซึ่งได้จัดงานพิธีพุทธาภิเษกน้ำมหาสังข์จากมหาสังข์โดยครูพราหมณ์ไปเมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา โดยมีคนมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก และในอนาคตมีแผนงานจะจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง อาทิ การทำพิพิธภัณฑ์เกศาอริยสงฆ์ 108 รูปซึ่งคุณเอกระพีร์ได้ถวายให้กับทางวัดไว้จัดแสดงให้ประชาชนได้ชื่นชม , การจัดสร้างอาคารโรคาพยาธิสถาน ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างสมาคมแพทย์แผนไทยร่วมกับทางวัดบางแพรก สำหรับผู้ป่วยที่สามารถรักษาด้วยยาสมุนไพรได้ รวมทั้งการจำหน่ายยาสมุนไพรที่ผ่านการรับรองจาก อย. และอีกโครงการหนึ่งที่กำลังจะทำเร็ว ๆ นี้ควบคู่กับการทำตลาดนัด คือ โครงการประกวดร้องเพลง รางวัลเด็กวัดหัวใจทองคำ ซึ่งเป็นการร่วมกันระหว่าง มาลีฮวนน่า กรุ๊ป และชมรมเด็กวัดแห่งประเทศไทย ซึ่งอาจจะมีรายการโทรทัศน์บางรายการมาร่วมด้วย นอกเหนือจากแผนที่จะให้เดือนเมษายนของทุกปีมีการมอบรางวัล “เด็กวัดหัวใจทองคำ” ให้กับผู้ที่ทำประโยชน์ให้กับสาธารณะ หรือวัดวาอาราม ในทุกสาขาอาชีพทุกเพศทุกวัย เพราะมีเป้าหมายให้ชมรมเด็กวัดแห่งประเทศไทยนี้เป็นมูลนิธิเพื่อช่วยสังคมในอนาคตด้วย

                ท้ายนี้คุณเอกระพีร์ ผู้ซึ่งต้องการพลิกวิกฤติด้วยพลังศรัทธา “ไอ้ไข่โคตรรวย” นี้ได้ฝากถึงทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการ นักธุรกิจ คนทั่วไป ไว้ว่า “อย่าท้อ เราต้องพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสให้ได้ บางอย่างเราอาจไม่ได้กำไรมาในรูปแบบของเงินทองทรัพย์สิน แต่อาจได้มาในรูปแบบของประสบการณ์หรือต้นทุนชีวิตที่จะทำให้เราสามารถเดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง และมีกำลังใจ เขาบอกกันว่า คนเราจะประสบความสำเร็จต้องประกอบด้วย 5 อย่าง คือ ความรู้ ความสามารถในการนำความรู้ไปใช้ มีโอกาสในการแสดงความรู้ความสามารถ มีคนอุปถัมภ์ และสุดท้ายคือ มีดวง การจะมีดวงได้ก็ต้องหมั่นทำบุญ ต้องเป็นผู้ให้ก่อน ก็ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกท่านครับ”

                ท่านใดสนใจมาทำกิจกรรมร่วมกันหรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ ทีมงานชมรมเด็กวัดแห่งประเทศไทย  โทร.081 – 4449565